วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555
เจ้าชาย อองเดร คาสิราคิ แห่ง โมนาโก
เจ้าชาย อองเดร คาสิราคิ แห่ง โมนาโก
เจ้าชายหนุ่มแห่งนครรัฐที่มั่งคั่งที่สุดของยุโรป พระชันษาเพียง 22 ปีเป็นอีกองค์ที่หล่อไม่เป็นรองใคร มีพระวรกายสูงใหญ่ด้วยทรงกีฬาตลอดเวลา แม้จะมีคู่หมายแล้วเช่นกันคือ ทาเทียน่า ซานโตโดมิงโก ลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ชาวอเมริกาใต้ ที่คาดว่าทั้งคู่น่าจะเข้าสู่พิธีอภิเษกในอนาคตอันใกล้
ทรงได้รับมรดกจาก เจ้าชายเรนิเยร์ที่ 2 พระอัยกาเป็นทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 2 พันล้านยูโร นับว่าเป็นเจ้าชายรัชทายาทที่ร่ำรวยที่สุด
เจ้าชายหนุ่มแห่งนครรัฐที่มั่งคั่งที่สุดของยุโรป พระชันษาเพียง 22 ปีเป็นอีกองค์ที่หล่อไม่เป็นรองใคร มีพระวรกายสูงใหญ่ด้วยทรงกีฬาตลอดเวลา แม้จะมีคู่หมายแล้วเช่นกันคือ ทาเทียน่า ซานโตโดมิงโก ลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ชาวอเมริกาใต้ ที่คาดว่าทั้งคู่น่าจะเข้าสู่พิธีอภิเษกในอนาคตอันใกล้
ทรงได้รับมรดกจาก เจ้าชายเรนิเยร์ที่ 2 พระอัยกาเป็นทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 2 พันล้านยูโร นับว่าเป็นเจ้าชายรัชทายาทที่ร่ำรวยที่สุด
ชีวิตรักเจ้าชายวิลเลี่ยม
เจ้าชายวิลเลียมแห่งเวลส์นั้น ประสูติเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2525 เป็นโอรสองค์โตของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฏราชกุมารแห่งอังกฤษ และเจ้าหญิงไดอาน่า ส่วน เคท มิดเดิลตัน นั้น เกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2525 เป็นสามัญชนชั้นกลาง ลูกสาวนักบินและแอร์โฮสเตส
แม้ทั้งคู่จะเติบโตมาในครอบครัวที่ต่างชั้น ต่างสังคมกัน แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งคู่มาพบเจอกันจนได้ เมื่อเจ้าชายวิลเลียม และ เคท มิดเดิลตัน ได้เข้ารับการศึกษาในมหาวิทยาเซนต์แอนดรูว์ เมื่อปี พ.ศ.2544 โดยเรียนด้านประวัติศาสตร์ศิลป์ด้วยกันทั้งคู่ เจ้าชายวิลเลียมและเคท มิดเดิลตัน จึงได้เริ่มต้นมิตรภาพความเป็นเพื่อนระหว่างกันนับแต่นั้น ซึ่งในตอนนั้น เคท มิดเดิลตัน ได้กลายมาเป็นกำลังใจสำคัญของเจ้าชายวิลเลียม เมื่อเจ้าชายวิลเลียมประสบปัญหาเรื่องเรียนจนอยากจะลาออกแต่ เคท มิดเดิลตัน ก็ยืนหยัดอยู่เคียงข้าง โดยแนะนำให้เจ้าชายวิลเลียมเปลี่ยนสาขาไปเรียนด้านภูมิศาสตร์แทน และหลังจากที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันได้เพียง 4 เดือน ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้สื่อมวลชนต่างสงสัยและตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าชายวิลเลียมเริ่มมีความรู้สึกดีกับ เคท มิดเดิลตัน เสียแล้ว เมื่อเขาได้ลงทุนซื้อบัตรที่นั่งแถวหน้างานเดินแบบซึ่งมี เคท มิดเดิลตัน เป็นนางแบบในครั้งนั้น หลังจากนั้นมา ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนระหว่างเจ้าชายวิลเลียมและเคท มิดเดิลตัน ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก แม้ตอนนั้น เคท มิดเดิลตัน จะมีแฟนอยู่แล้วก็ตาม
หลังจากนั้นเพียงครึ่งปี เจ้าชายวิลเลียมและเคท มิดเดิลตัน ก็ได้ย้ายออกจากหอพักในมหาวิทยาลัยไปอยู่บ้านหลังเดียวกัน ซึ่งมีพระสหายอาศัยอยู่ด้วยอีก 2 คน การย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันนี้ แม้จะในฐานะเพื่อนแต่ก็ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมและมีการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและในเดือนมิถุนายน ปี 2546 เคท มิดเดิลตัน ก็ได้ไปปรากฏตัวในงานเลี้ยงวันเกิดเจ้าชายวิลเลียมที่พระราชวังวินด์เซอร์ และถูกจับตามองเป็นพิเศษจากแขกเหรื่อและสื่อมวลชนในงาน แต่กระนั้น เมื่อมีสื่อมวลชนเข้าไปถามถึงเรื่องราวความรักของเจ้าชายวิลเลียม กลับได้รับคำตอบกลับมาว่า เจ้าชายวิลเลียมยังไม่มีคนรักแต่อย่างใด
ต่อมา ในช่วงคริสต์มาส ปี 2546 ก็มีข่าวว่าทั้งคู่เริ่มคบหากันแล้ว หลังจากที่ เคท มิดเดิลตัน เลิกรากับแฟนเก่า และไม่นานนักก็มีรูปถ่ายของทั้งคู่ออกมายืนยันความสัมพันธ์ ขณะเล่นสกีด้วยกัน ซึ่งในช่วงนั้น เจ้าชายวิลเลียมก็ได้ออกมาเผยว่า พระองค์ไม่อยากแต่งงาน จนกว่าจะอายุ 28 หรือ 30 ปี
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็มีข่าวระหองระแหงกัน และยิ่งย้ำชัดมากขึ้นเมื่อ เคท มิดเดิลตัน ไม่ได้ถูกเชิญให้เข้าร่วมพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแห่งเวลส์ และคามิลลา ปาร์คเกอร์ ที่จัดขึ้นในพระราชวังวินด์เซอร์ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานนัก เมื่อปี 2548 เจ้าชายวิลเลียมก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้เลิกรากับเคท มิดเดิลตัน จริง เพราะพระองค์และเคทยังเด็กมาก อยู่แค่มหาวิทยาลัยก็ต้องค้นหาตัวเองกันต่อไปส่วน เคท มิดเดิลตัน เองก็เปิดเผยว่า หลังจากที่เธอเลิกรากับเจ้าชายวิลเลียมแล้วเธอเองก็ไม่มีความสุขเลย
แต่แล้ว ครึ่งปีต่อมา เจ้าชายวิลเลียมกับเคทก็หวนกลับมาพบกันอีกครั้งเมื่อ เคท มิดเดิลตัน ถูกเชิญไปงานเลี้ยง และร่วมชมคอนเสิร์ตรำลึกถึงเจ้าหญิงไดอาน่า พระมารดาของเจ้าชายวิลเลียม ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายวิลเลียมและเคท จึงกลับมารักกันอีกครั้งและคราวนี้ ก็ดูเหมือนว่าเจ้าชายวิลเลียมจะจริงจังกับเคทมากขึ้น โดยได้ควงคู่ออกงานและปฏิบัติพระราชกรณีกิจของราชวงศ์ร่วมกันเรื่อยมา แต่ชีวิตรักของทั้งคู่ก็ไม่ได้ราบเรียบเลย เพราะระหว่างที่คบหากันนั้น เจ้าชายวิลเลียมและเคทต่างเป็นที่สนใจของผู้คนและสื่อมวลชนทั่วโลก แต่เจ้าชายวิลเลียมก็ปกป้องเคทไม่ให้ถูกคุกคามจากสื่อมวลชนมาโดยตลอด
เมื่อบ่มเพาะความรักจนสุกงอม และถึงเวลาใช้ชีวิตคู่กันอย่างแท้จริงเสียทีแล้ว เจ้าชายวิลเลียมก็ได้ประกาศหมั้น เคท มิดเดิลตัน เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2553 และมีกำหนดการเข้าพิธีเสกสมรสกันในวันที่ 29 เมษายนนี้ เป็นการยืนยันถึงรักแท้ระหว่างเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ และสามัญชนที่ไม่ได้ปรากฎอยู่แค่ในนิยายอีกต่อไป ซึ่งพิธีเสกสมรสดังกล่าว จะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางประชาชนหลายแสนที่มาร่วมชมขบวนรถม้าพระที่นั่ง
แม้ทั้งคู่จะเติบโตมาในครอบครัวที่ต่างชั้น ต่างสังคมกัน แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งคู่มาพบเจอกันจนได้ เมื่อเจ้าชายวิลเลียม และ เคท มิดเดิลตัน ได้เข้ารับการศึกษาในมหาวิทยาเซนต์แอนดรูว์ เมื่อปี พ.ศ.2544 โดยเรียนด้านประวัติศาสตร์ศิลป์ด้วยกันทั้งคู่ เจ้าชายวิลเลียมและเคท มิดเดิลตัน จึงได้เริ่มต้นมิตรภาพความเป็นเพื่อนระหว่างกันนับแต่นั้น ซึ่งในตอนนั้น เคท มิดเดิลตัน ได้กลายมาเป็นกำลังใจสำคัญของเจ้าชายวิลเลียม เมื่อเจ้าชายวิลเลียมประสบปัญหาเรื่องเรียนจนอยากจะลาออกแต่ เคท มิดเดิลตัน ก็ยืนหยัดอยู่เคียงข้าง โดยแนะนำให้เจ้าชายวิลเลียมเปลี่ยนสาขาไปเรียนด้านภูมิศาสตร์แทน และหลังจากที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันได้เพียง 4 เดือน ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้สื่อมวลชนต่างสงสัยและตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าชายวิลเลียมเริ่มมีความรู้สึกดีกับ เคท มิดเดิลตัน เสียแล้ว เมื่อเขาได้ลงทุนซื้อบัตรที่นั่งแถวหน้างานเดินแบบซึ่งมี เคท มิดเดิลตัน เป็นนางแบบในครั้งนั้น หลังจากนั้นมา ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนระหว่างเจ้าชายวิลเลียมและเคท มิดเดิลตัน ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก แม้ตอนนั้น เคท มิดเดิลตัน จะมีแฟนอยู่แล้วก็ตาม
หลังจากนั้นเพียงครึ่งปี เจ้าชายวิลเลียมและเคท มิดเดิลตัน ก็ได้ย้ายออกจากหอพักในมหาวิทยาลัยไปอยู่บ้านหลังเดียวกัน ซึ่งมีพระสหายอาศัยอยู่ด้วยอีก 2 คน การย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันนี้ แม้จะในฐานะเพื่อนแต่ก็ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมและมีการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและในเดือนมิถุนายน ปี 2546 เคท มิดเดิลตัน ก็ได้ไปปรากฏตัวในงานเลี้ยงวันเกิดเจ้าชายวิลเลียมที่พระราชวังวินด์เซอร์ และถูกจับตามองเป็นพิเศษจากแขกเหรื่อและสื่อมวลชนในงาน แต่กระนั้น เมื่อมีสื่อมวลชนเข้าไปถามถึงเรื่องราวความรักของเจ้าชายวิลเลียม กลับได้รับคำตอบกลับมาว่า เจ้าชายวิลเลียมยังไม่มีคนรักแต่อย่างใด
ต่อมา ในช่วงคริสต์มาส ปี 2546 ก็มีข่าวว่าทั้งคู่เริ่มคบหากันแล้ว หลังจากที่ เคท มิดเดิลตัน เลิกรากับแฟนเก่า และไม่นานนักก็มีรูปถ่ายของทั้งคู่ออกมายืนยันความสัมพันธ์ ขณะเล่นสกีด้วยกัน ซึ่งในช่วงนั้น เจ้าชายวิลเลียมก็ได้ออกมาเผยว่า พระองค์ไม่อยากแต่งงาน จนกว่าจะอายุ 28 หรือ 30 ปี
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็มีข่าวระหองระแหงกัน และยิ่งย้ำชัดมากขึ้นเมื่อ เคท มิดเดิลตัน ไม่ได้ถูกเชิญให้เข้าร่วมพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแห่งเวลส์ และคามิลลา ปาร์คเกอร์ ที่จัดขึ้นในพระราชวังวินด์เซอร์ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานนัก เมื่อปี 2548 เจ้าชายวิลเลียมก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้เลิกรากับเคท มิดเดิลตัน จริง เพราะพระองค์และเคทยังเด็กมาก อยู่แค่มหาวิทยาลัยก็ต้องค้นหาตัวเองกันต่อไปส่วน เคท มิดเดิลตัน เองก็เปิดเผยว่า หลังจากที่เธอเลิกรากับเจ้าชายวิลเลียมแล้วเธอเองก็ไม่มีความสุขเลย
แต่แล้ว ครึ่งปีต่อมา เจ้าชายวิลเลียมกับเคทก็หวนกลับมาพบกันอีกครั้งเมื่อ เคท มิดเดิลตัน ถูกเชิญไปงานเลี้ยง และร่วมชมคอนเสิร์ตรำลึกถึงเจ้าหญิงไดอาน่า พระมารดาของเจ้าชายวิลเลียม ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายวิลเลียมและเคท จึงกลับมารักกันอีกครั้งและคราวนี้ ก็ดูเหมือนว่าเจ้าชายวิลเลียมจะจริงจังกับเคทมากขึ้น โดยได้ควงคู่ออกงานและปฏิบัติพระราชกรณีกิจของราชวงศ์ร่วมกันเรื่อยมา แต่ชีวิตรักของทั้งคู่ก็ไม่ได้ราบเรียบเลย เพราะระหว่างที่คบหากันนั้น เจ้าชายวิลเลียมและเคทต่างเป็นที่สนใจของผู้คนและสื่อมวลชนทั่วโลก แต่เจ้าชายวิลเลียมก็ปกป้องเคทไม่ให้ถูกคุกคามจากสื่อมวลชนมาโดยตลอด
เมื่อบ่มเพาะความรักจนสุกงอม และถึงเวลาใช้ชีวิตคู่กันอย่างแท้จริงเสียทีแล้ว เจ้าชายวิลเลียมก็ได้ประกาศหมั้น เคท มิดเดิลตัน เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2553 และมีกำหนดการเข้าพิธีเสกสมรสกันในวันที่ 29 เมษายนนี้ เป็นการยืนยันถึงรักแท้ระหว่างเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ และสามัญชนที่ไม่ได้ปรากฎอยู่แค่ในนิยายอีกต่อไป ซึ่งพิธีเสกสมรสดังกล่าว จะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางประชาชนหลายแสนที่มาร่วมชมขบวนรถม้าพระที่นั่ง
เจ้าชาย อันโตนิอัส ฟอน ฟูร์สเต็นเบอร์ก
เจ้าชาย อันโตนิอัส ฟอน ฟูร์สเต็นเบอร์ก เจ้าชายสายเลือดเยอรมัน
พระชันษา 22 ปี โอรสในเจ้าชายเฮนดริกและเจ้าหญิงแมกซิมิเลียน แห่ง ฟูร์สเตนเบอร์ก เป็นทายาทของราชสกุลที่มั่งคั่งที่สุดสายหนึ่งของเยอรมันนี ปัจจุบันทรงเป็นนักศึกษาในสาขา เศรษฐศาสตร์และการคลังอยู่ที่ กรุงลอนดอน โปรดการดนตรีและทรงกีตาร์ได้อย่างมืออาชีพ
พระชันษา 22 ปี โอรสในเจ้าชายเฮนดริกและเจ้าหญิงแมกซิมิเลียน แห่ง ฟูร์สเตนเบอร์ก เป็นทายาทของราชสกุลที่มั่งคั่งที่สุดสายหนึ่งของเยอรมันนี ปัจจุบันทรงเป็นนักศึกษาในสาขา เศรษฐศาสตร์และการคลังอยู่ที่ กรุงลอนดอน โปรดการดนตรีและทรงกีตาร์ได้อย่างมืออาชีพ
เจ้าชายแฮรี่ เชลซีย์
|
เจ้าชาย อเมอเดโอ แห่ง เบลเยี่ยม
อาร์คดยุคอเมดิโอ้แห่งออสเตรีย-เอสต์ ทรงประสูติเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529) เป็นพระโอรสในอาร์คดยุคลอเรนซ์แห่งออสเตรีย-เอสต์ เจ้าชายแห่งเบลเยียม และ อาร์คดัชเชสแอสตริดแห่งออสเตรีย-เอสต์ เจ้าหญิงแห่งเบลเยียม ทรงเป็นพระราชนัดดา (หลานตา) ของสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 แห่งเบลเยียม
อาร์คดยุคอเมดิโอ้ ได้สอบเข้าเตรียมทหาร และเป็นทหารเบลเยียม
เจ้าชาย คาร์ล-ฟิลิป แห่ง สวีเดน
เจ้าฟ้าชายคาร์ล ฟิลิปแห่งสวีเดน หรือ คาร์ล ฟิลิป เอ็ดมุนด์ เบอร์ติล เป็นดยุกแห่งวาร์มลานด์ ประสูติเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2522 ณ พระราชวังหลวงกรุงสต็อกโฮล์ม ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สองและพระองค์เดียวในสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน และ สมเด็จพระราชินีซิลเวีย แรกประสูติพระองค์ทรงเป็นมกุฎราชกุมารแห่งสวีเดนและคงดำรงพระอิสริยยศนี้และรัชทายาทลำดับที่ 1 ในลำดับการสืบราชบัลลังก์เป็นเวลา 7 เดือนจนกระทั่งวันที่ 1 มกราคมพ.ศ. 2523 ซึ่งได้ทรงถูกถอดถอนทั้งสองตำแหน่งจากการเปลี่ยนแปลงพระราชบัญญัติการสืบราชสมบัติเพื่อให้ทายาทของกษัตริย์สืบสันตติวงศ์ได้ไม่ว่าจะเป็นเพศใด นับแต่นั้นเจ้าชายทรงอยู่ลำดับที่ 2 ของลำดับการสืบราชบัลลังก์สวีเดน ต่อจากเจ้าฟ้าหญิงวิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน พระเชษฐภคินี แต่อย่างไรก็ดี เจ้าชายก็ทรงอยู่ลำดับก่อนหน้าในสายการสืบราชบัลลังก์อังกฤษเนื่องจากประเทศอังกฤษยังให้สิทธิบุรุษสืบราชสมบัติก่อนหน้าสตรีอยู่
เจ้าชายคาร์ล ฟิลิปทรงเข้ารับศีลจุ่มเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2522 ณ โบสถ์หลวง (Storkyrkan) กรุงสต็อกโฮล์ม โดยทรงมีพ่อและแม่ทูนหัวดังนี้คือ เจ้าชายเบอร์ติล ดยุกแห่งฮาลลานด์ เจ้าชายเลโอโพลด์แห่งบาวาเรีย สมเด็จพระบรมราชินีนาถมาร์เกรเธที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และ เจ้าหญิงเบอร์จิตตาแห่งสวีเดน
วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)